ข้อมูลการเตรียมตัวนักวิ่ง Bank of America Chicago Marathon 2025
ขอแสดงความยินดีกับนักวิ่งที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน Bank of America Chicago Marathon 2025 หนึ่งในงานวิ่งระดับโลกที่นักวิ่งทุกคนใฝ่ฝัน สนามนี้ไม่เพียงมีชื่อเสียงด้านเส้นทางที่ราบเรียบและเหมาะสำหรับทำสถิติส่วนตัว แต่ยังเป็นหนึ่งใน Abbott World Marathon Majors ที่ยิ่งใหญ่และทรงเกียรติที่สุดของโลก การเข้าร่วมวิ่ง 42.195 กิโลเมตรในเมืองแห่งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอย่าง Chicago จึงไม่ใช่เพียงการพิชิตระยะทาง แต่คือการได้เป็นส่วนหนึ่งของเวทีที่นักวิ่งจากทั่วโลกต่างมุ่งหน้ามาเพื่อสัมผัสบรรยากาศอันน่าจดจำ
LET’S RUN THE WORLD เป็น Official Tour Operator ของ Bank of America Chicago Marathon ได้รับสิทธิ์การขายแพ็คเกจอย่างถูกต้องในประเทศไทย
ข้อมูลทั่วไป
สกุลเงิน
ใช้สกุลเงินดอลล่าร์ (USD) อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ $1 = 32-33 บาท
ร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่ (เกือบ 99%) รับบัตรเครดิต ได้อย่างสะดวก เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมาก
แนะนำให้ตรวจสอบกับธนาคารผู้ออกบัตรของล่วงหน้า เพื่อเปิดใช้บริการรูดบัตรในต่างประเทศและตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมในการใช้จ่ายระหว่างประเทศเป็นเงินสกุล USD

เครื่องใช้ไฟฟ้า
ปลั๊กไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาจะเป็นไฟ 120 Volt ไม่สามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าโวลต์สูงจากไทยไปใช้ได้ ยกเว้นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ที่รองรับการแปลงไฟอัตโนมัติ ปลั๊กเป็นแบบ Type A (2 ขาแบน) และ Type B (2 ขาแบน + 1 ขากลม)
สภาพอากาศ
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่ Chicago อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-15° เซลเซียส โอกาสเกิดฝนประมาณ 25% ลมค่อนข้างแรง ควรเตรียมเสื้อกันหนาว เสื้อกันลม และเสื้อกันฝนไปเผื่อด้วย ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงไปมา ต้องติดตามการพยากรณ์อากาศแบบวันต่อวัน
เวลา
เวลาท้องถิ่นของเมือง Chicago ในเดือนตุลาคม ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง
เครื่องใช้ไฟฟ้า
ไฟฟ้าที่สหรัฐอเมริกาเป็นไฟ 120 Volt ไม่สามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าโวลต์สูงจากไทยไปใช้ได้ปลั๊กไฟฟ้าเป็นแบบ Type A และ Type B
VAT หรือภาษี
ราคาสินค้า อาหาร หรือบริการที่ติดป้ายไว้ จะเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษี ในเมือง Chicago อีก 10.25% ส่วนค่าอาหารจะมี restaurant tax อีก 0.50% จะทำให้เสมือน VAT ของร้านอาหารเป็น 10.75%
TIPS การให้ทิป
เป็นธรรมเนียมของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เราต้องให้ “ทิป” กับคนที่ทำงานบริการ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ช่างตัดผม บาร์เทนเดอร์ คนขับแท้กซี่ คนยกกระเป๋าในโรงแรม เนื่องจากอาชีพเหล่านี้ ได้รายได้ต่อชั่วโมง ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งกรมแรงงานก็ได้ระบุอาชีพเหล่านี้เป็น tips earner
การให้ทิป เป็นธรรมเนียมแบบอเมริกันเพื่อกระตุ้นให้พนักงานบริการลูกค้าอย่างดีที่สุด โดยหวังให้ลูกค้า “ทิป” เพื่อเป็นรางวัล
ตัวอย่างการให้ทิป
- พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร 15-20% ของราคาอาหารที่ยังไม่รวมภาษี
- คนขับแท้กซี่ 10%
- บาร์เทนเดอร์ $1 ต่อ 1 drink
- คนยกกระเป๋าในโรงแรม $1 ต่อกระเป๋า 1 ใบ
US Visa
ในการขอวีซ่าชั่วคราว B-1/B-2 ผู้ยื่นขอวีซ่าต้องทำให้เจ้าหน้าที่กงสุลเห็นว่า มีคุณสมบัติสมควรได้รับวีซ่าอเมริกา ตามบทบัญญัติในกฏหมายตรวจคนเข้าเมืองและพลเมืองของอเมริกา ดังนั้น เพื่อให้วีซ่าอเมริกาผ่านการอนุมัติ ผู้ขอวีซ่าต้องหักล้างข้อสมมุติฐานที่จะคิดว่าเราจะย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากอย่างถาวร โดยแสดงหลักฐานให้เห็นได้ว่า:
- วัตถุประสงค์การไปอเมริกา เป็นแบบชั่วคราว เช่น ไปติดต่อธุรกิจ ท่องเที่ยว หรือรับบริการทางการแพทย์
- มีแผนการไปพำนักอาศัยในอเมริกาเป็นการชั่วคราว และช่วงระยะเวลาพำนักอาศัยมีกำหนดการที่ชัดเจน
- แสดงหลักฐานการเงินที่เพียงพอ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในระหว่างพำนักอาศัยในสหรัฐอเมริกา
- ผู้ยื่นขอวีซ่าอเมริกามีถิ่นพำนักถาวรเป็นหลักแหล่งนอกประเทศสหรัฐอเมริกา มีความผูกพันทางด้านสังคมและเศรษฐกิจอย่างแข็งแรงกับประเทศที่พำนักอาศัยหรือประเทศบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อเป็นหลักประกันว่า ความผูกพันนี้จะดึงดูดให้ผู้ขอวีซ่าเดินทางกลับออกไปเมื่อสิ้นสุดภาระกิจในอเมริกา
- นอกเหนือจากนี้ กฏหมายตรวจคนเข้าเมืองยังมีข้อกำหนดไว้ว่า ชาวต่างชาติบางคนอาจมีคุณสมบัติที่ไม่สามารถยื่นขอวีซ่าได้เช่น เป็นโรคติดต่อหรือมีโรคร้ายแรง มีประวัติอาชญากรรม เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ฝ่าฝืนกฏหมาย หรือลักลอบเข้าเมือง เป็นต้น
อายุของวีซ่าจะต้อง valid ครอบคลุมทั้งขาเข้าและขาออกจากสหรัฐอเมริกา หนังสือเดินทางจะต้องมีหน้าว่างเปล่าสำหรับประทับตราอย่างน้อย 2 หน้า และมีอายุเหลือ 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ
เที่ยวบินจากไทยไป Chicago
ปัจจุบัน ยังไม่มีเที่ยวบินตรง จากกรุงเทพฯ (BKK) ไปยังสนามบิน Chicago (ORD – O’Hare International Airport หรือ MDW – Midway Airport) จำเป็นต้องต่อเครื่องอย่างน้อย 1 ครั้ง แบ่งเป็น
ต่อเครื่องในตะวันออกกลาง
| สายการบิน | เส้นทาง | เวลาบินโดยรวม | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|
| Qatar Airways | BKK – DOH – ORD | 20–23 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Doha |
| Etihad | BKK – AUH – ORD | 20–21 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Abu Dhabi |
| Emirates | BKK – DXB – ORD | 22–23 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Dubai |
ต่อเครื่องในยุโรป
| สายการบิน | เส้นทาง | เวลาบินโดยรวม | จุดเด่น |
|---|---|---|---|
| Lufthansa | BKK – FRA – ORD | 21–22 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Frankfurt |
| Swiss Air | BKK – ZRH – ORD | 21–22 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Zurich |
| Turkish Airlines | BKK – IST – ORD | 22–23 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Istanbul |
ต่อเครื่องในเอเชีย
| สายการบิน | เส้นทาง | เวลาบินโดยรวม | จุดเด่น |
|---|---|---|---|
| Japan Airlines | BKK – NRT – ORD | 19–20 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Narita |
| All Nippon Airways | BKK – NRT – ORD | 19–20 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Narita |
| Korean Air | BKK – ICN – ORD | 21–22 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Seoul |
| EVA Air | BKK – TPE – ORD | 20–21 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Taipei |
ต่อเครื่องในอเมริกาเหนือ
| สายการบิน | เส้นทาง | เวลาบินโดยรวม | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|
| Air Canada | BKK – YVR – ORD | 19–22 ชม. | เปลี่ยนเครื่องที่ Vancouver |
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
เพื่อให้ทริปราบรื่น ไม่มีสะดุด และพร้อมสำหรับวันแข่งอย่างเต็มที่ อย่าลืมเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้ครบก่อนออกเดินทาง
- จัดอุปกรณ์ที่จะใช้ในวันแข่งลง Carry On
อุปกรณ์วันแข่งห้ามโหลดใต้เครื่อง รองเท้า เสื้อผ้าวิ่ง หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นในวันแข่ง ควรเก็บไว้ใน carry-on หรือเป้ติดตัวขึ้นเครื่อง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น กระเป๋าหาย หรือมาถึงล่าช้า - เตรียมเอกสารการเดินทาง ประกันเดินทาง
เตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อม ให้แน่ใจว่ามีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนทั้งขาไปและขากลับ ตรวจสอบชื่อนามสกุลตัวสะกดบนวีซ่าให้แน่ใจอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีเอกสารอื่นๆ เช่น วัคซีน ประกันเดินทาง ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือแล้ว ยังแนะนำให้ถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นกระดาษสำรองไว้ (เผื่อมือถือหายจะได้ยังมีข้อมูล) - เตรียมข้อมูลสำหรับการตรวจคนเข้าเมือง
เตรียมข้อมูลที่พัก ตั๋วเครื่องบินขากลับ เพราะ ตม. อาจสุ่มตรวจสอบถามข้อมูล เช็คให้แน่ใจว่าวันที่บินกลับ ยังอยู่ในช่วงที่วีซ่ามีอายุอยู่ - แลกเงิน เตรียมบัตรเครดิต หรือ Travel Card
ส่วนใหญ่ร้านค้า ร้านอาหาร จะเป็นระบบ cashless เกือบหมด สามารถจ่ายเงินด้วยบัตรที่มีสัญลักษณ์ touchless นอกจากนี้ แนะนำให้แลกเงินสดไว้บ้าง (แบงค์ย่อยเล็กๆ) เผื่อฉุกเฉิน ไม่แนะนำให้พกเงินสดจำนวนเยอะๆ - เตรียมอุปกรณ์ First Aid ยาประจำตัว วิตามิน อาหารเสริม
เนื่องจากยาหลายชนิด โดยเฉพาะที่ไม่ใช่ยาสามัญทั่วไป จะต้องใช้ใบสั่งแพทย์ (prescription) ในการซื้อ ควรพกไปให้ครบตั้งแต่ต้นทาง และควรเป็นยาที่มีฉลากชัดเจน - รีวิวแผนการเดินทาง
นำแผนการเดินทางมารีวิวดูอีกที พักที่ไหน เอา address มา save ไว้ใน Google Maps ให้พร้อมโหลด maps เป็นแบบ offline เผื่อไว้ก็ดี ส่วนตัวจะใช้ app ชื่อ TripIt เป็น app ที่มีประโยชน์มากๆ จัดเรียงข้อมูลทุกอย่างแบบ offline ไว้ในมือถือ ค้นหาสะดวกมาก - ถ่ายรูปกระเป๋าที่โหลด
หากกระเป๋าเสียหายจะได้มีหลักฐานสภาพกระเป๋าก่อนเสียหาย หรือถ้ากระเป๋าล่าช้า/หาย จะเป็นประโยชน์ต่อสายการบินในการค้นหากระเป๋าได้เร็วขึ้น
เมื่อเดินทางถึงสนามบิน O’Hare
สิ่งที่ต้องเตรียม
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอาจจะมีการสอบถามจุดประสงค์ของการเดินทาง เช่น มาทำอะไร มากี่วัน พักที่ไหน ควรเตรียมข้อมูลให้เรียบร้อย
- หนังสือเดินทาง
- ข้อมูลที่พัก (ชื่อและที่อยู่โรงแรม)
- ข้อมูลตั๋วเครื่องบินขากลับ
- ข้อมูลหลักฐานการตอบรับจากงานวิ่ง
หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ไปที่สายพานเพื่อรับกระเป๋า แล้วเดินผ่านศุลกากร (เจ้าหน้าที่อาจจะมีการสุ่มขอตรวจกระเป๋า)
สิ่งต้องห้ามนำเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผัก ผลไม้ เมล็ดพืช
- เนื้อสัตว์ รวมถึงเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น หมูหยอง หมูฝอย
การเดินทางเข้าเมือง
- จากสนามบิน O’Hare ขึ้นรถไฟ Blue Line (Forest Park) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที มาลงที่สถานี Jackson แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟ Red Line (Howard) นั่งอีก 3 สถานี (ประมาณ 5 นาที) ลงที่สถานี Grand แล้วเดินประมาณ 500 เมตรถึงโรงแรม (เปิด Google Maps ประกอบ)
- หากมีกระเป่าสัมภาระ ไม่สะดวกในการนั่งรถไฟ เรียก Uber หรือ Lyft (แนะนำให้โหลด 2 แอพนี้ และทดลองใส่เลขบัตรเครดิตให้เรียบร้อย) เดินตามป้าย Ride Share ไปยืนรอรถที่ Terminal 2 – departure level ราคาค่าโดยสารจากสนามบินเข้าตัวเมืองทั่วไปอยู่ที่ประมาณ $50-60 (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร และปริมาณการเรียกรถ) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
สำหรับนักวิ่ง LET’S RUN THE WORLD หากต้องการนั่งรถไฟจากสนามบินมาที่โรงแรม
- ซื้อตั๋ว 7-day pass จากตู้ CTA ที่สนามบิน
- นั่งรถไฟ Blue Line จาก Airport มาลงที่สถานี Washington (17 สถานี – ประมาณ 45 นาที) ออกที่ทางออก Randolph-Washington Exit จะมีทางเดินลอด (Chicago Pedway) ไปยังรถไฟ Red Line สถานี Lake
- ขึ้นรถไฟ Red Line ขบวน Howard มาลงที่สถานี Grand (1 สถานี) เมื่อขึ้นมาจากสถานี เดินประมาณ 400 เมตรถึงโรงแรม Riu Plaza Chicago
ระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมือง Chicago
ระบบขนส่งสาธารณะใน Chicago ชื่อ CTA (Chicago Transit Authority) ประกอบไปด้วยด้วยรถไฟและรถบัส สามารถใช้ Ventra Card ที่เป็นบัตรเติมเงิน หรือซื้อเป็น pass เพื่อความสะดวก
- L (train) $2.50 ต่อครั้ง (transfer ฟรีใน 2 ชั่วโมง)
- Bus $2.25
- รถไฟจากสนามบินเข้าเมือง $5
- 1-day Pass $5
- 3-day Pass $15
- 7-day Pass $20 (ถ้าอยู่ใน Chicago ตั้งแต่ 4 วันเป็นต้นไปก็คุ้มแล้ว แนะนำให้ซื้ออันนี้ครับ)
Ventra Card (บัตรสีเทา) เป็นเหมือนบัตรเติมเงิน มีค่าธรรมเนียมครั้งแรก $5 ซื้อได้ที่สถานี จากนั้นเติมเงินได้ที่ตู้ ถ้าใช้ขึ้นรถรายครั้ง ค่าโดยสารตัดบัตรไปครั้งละ $2.50 แต่ถ้าจะซื้อ pass ก็เลือกซื้อได้ตั้งแต่ตอนเติมเงินเลย ถ้าคิดว่าจะโดยสารบ่อย ให้เลือกแบบนี้
หมายเหตุ: เวลานำบัตรเครดิตจากไทยไปใช้ที่ตู้เติมเงิน ตู้จะถาม Zip Code ให้ใส่รหัสไปรษณีย์ของเราเอง
Ventra Ticket (บัตรกระดาษสีฟ้า) เป็นบัตร single-ride ใช้เพื่อโดยสารครั้งเดียว กดซื้อที่ตู้ในสถานี ราคาครั้งละ $3
Travel Card/Debit Card/Credit Card ของเราเอง ใช้สำหรับแตะเข้าที่เครื่องได้เลย ค่าโดยสารครั้งละ $2.50 แต่จะไม่สามารถซื้อ pass ได้ ถ้าไม่ใช่บัตรเครดิตของอเมริกา ถ้าคิดว่าจะโดยสารไม่เยอะ ให้ใช้แบบนี้
Marathon Expo
จัดที่ McCormick Place, Lakeside Center, Hall D
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/FG4vcZRH8i5AgHNX8
- พฤหัสบดี 9 ตุลาคม เวลา 11:00 – 18:00 น.
- ศุกร์ 10 ตุลาคม เวลา 09:00 – 18:00 น.
- เสาร์ 11 ตุลาคม เวลา 09:00 – 18:00 น.
นักวิ่งจะต้องแสดง QR Code พร้อมกับพาสปอร์ตยืนยันตัวตนเพื่อรับบิบ ไม่อนุญาตให้รับบิบแทน นอกจากนี้จะได้รับถุงสำหรับฝากของ และเสื้อ Nike Race Shirt 1 ตัว ถ้าไม่พอดี สามารถเปลี่ยนไซส์ได้ที่บูธเปลี่ยนไซส์
นักวิ่งที่สมัคร Chicago 5K สามารถรับบิบได้ที่บูธ 5K
การเตรียมตัวสำหรับวันแข่งขัน
- รับประทานอาหารที่ให้พลังงานเพียงพอ โดยเฉพาะพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต
- พักผ่อน นอนหลับให้เต็มที่และเพียงพอ
- หากต้องการรับประทานอาหารเช้า เผื่อเวลาให้อาหารย่อยก่อนเวลาแข่งขันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- นำอุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับวันแข่งขันมาจัดวางเรียงไว้
- เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการเสียดสี ทาวาสลีนตามรอยต่อของตะเข็บผ้า ข้อพับ และจุดต่างๆ ที่อาจเกิดการเสียดสีเป็นเวลานานระหว่างวิ่ง
- เตรียมชุดคลุม เสื้อกันหนาว ชุดกันฝน สำหรับการเดินทางไปจุดปล่อยตัว สามารถฝากของ ที่จุดปล่อยตัว โดยใส่ทุกอย่างที่ไม่ใช้ไว้ในถุงใสที่ทาง Chicago Marathon แจกให้
การแต่งกายสำหรับนักวิ่ง
Chicago ในเดือนตุลาคมอากาศหนาวเย็นมาก (8-15 องศา) โอกาสมีฝน 25% จึงแนะนำให้เตรียมเสื้อวิ่งแขนยาว กางเกงวิ่งขายาวไปด้วย เราจะมีโอกาสได้ลองวิ่ง morning run กันวันศุกร์ และบางท่านลงทะเบียนวิ่ง Chicago 5K วันเสาร์ น่าจะทำให้พอประมาณการณ์ได้ว่าควรแต่งตัวอย่างไรในวันวิ่งจริง
เนื่องจากอากาศหนาว แนะนำให้มีถุงมือแบบที่ไม่อุ้มน้ำ ไม่อมน้ำ (กรณีฝนตก)
มีข้อห้ามสำหรับนักวิ่ง ไม่ให้ถือ selfie stick, tripod ขณะวิ่ง นอกจากนี้ยังห้ามมี camera mount เช่น การติด GoPro บนหมวก เป็นต้น
RACE DAY
จุดปล่อยตัว อยู่บริเวณทางตอนเหนือของ Grant Park โดยนักวิ่งเดินจะต้องเดินเข้าทางเข้าตาม wave/corral เมื่อผ่าน security จะมีจุดฝากของอยู่ที่บริเวณ Buckingham Fountain
เส้นชัย อยู่บริเวณทางใต้ของ Grant Park
Cut Off: 6:30 ชั่วโมง (chip time)
จะมีป้ายบอกระยะทางทุกๆ 1 ไมล์ และทุกๆ 5 กิโลเมตร
จุดบริการจะมีทุกๆ ประมาณ 2-2.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยปฐมพยาบาล ห้องน้ำ น้ำดื่ม และ Gatorade
เจลให้พลังงาน Maurten ที่ประมาณกิโลเมตรที่ 20, 25, และ 29
นักวิ่งควรศึกษา Participant Guide อย่างละเอียด > https://www.chicagomarathon.com/runners/runner-information/


