ข้อมูลการเตรียมตัวนักวิ่ง Shanghai Marathon 2025

ขอแสดงความยินดีกับนักวิ่งที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน Shanghai Marathon 2025 งานมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศจีน ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เป็น World Marathon Major Candidate เพื่อทำการประเมินยกระดับขึ้นเป็น Abbott World Marathon Majors สนามถัดไป

LET’S RUN THE WORLD เป็น Official Tour Operator กับ Shanghai Marathon ได้รับสิทธิ์การขายแพ็คเกจอย่างถูกต้องในประเทศไทย

ข้อมูลทั่วไป

สกุลเงิน

ใช้สกุลเงินหยวน (CNY/RMB) อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวนอยู่ที่ประมาณ 5 บาท

ร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่ (เกือบ 99%) เป็นแบบ cashless ไม่รับเงินสด และเป็นระบบสแกนจ่าย เช่น Alipay, WeChat, หรือ UnionPay โดยแนะนำวิธีดังต่อไปนี้

  1. แอพ TrueMoney สามารถสแกนจ่าย Alipay ได้
  2. แอพธนาคารกสิกรไทย K Plus สามารถสแกนจ่าย Alipay, WeChat และ UnoinPay ได้
  3. แอพธนาคารกรุงเทพ สามารถสแกนจ่าย WeChat และ UnoinPay ได้
  4. แอพ WeChat ผูกบัตรเครดิต หรือ Travel Card ไว้ หรือเติมเงินด้วยธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ
  5. บัตร Krungthai Travel UnionPay Debit Card ของธนาคารกรุงไทย สามารถแตะใช้จ่ายได้ทุกที่

china sockets

เครื่องใช้ไฟฟ้า

ปลั๊กไฟฟ้าในประเทศจีนจะเป็นไฟ 220 Volt เหมือนประเทศไทย ใช้ปลั๊กเป็นแบบ Type A (2 ขาแบน) Type C (2 ขากลม) และ Type I (3 ขาเฉียง) ซึ่งอาจจะไม่เหมือนของไทย แนะนำให้เตรียม Universal Adaptor ไปด้วย

Power Bank

กฎระเบียบใหม่สำหรับการเดินทางไปประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา ทางการบินพลเรือนของจีนได้บังคับใช้กฎใหม่ที่เข้มงวดสำหรับพาวเวอร์แบงก์ที่นำขึ้นเครื่องในเที่ยวบินภายในประเทศ 

  1. ต้องมีใบรับรอง CCC:พาวเวอร์แบงก์ที่ใช้ในเที่ยวบินภายในประเทศของจีนต้องมีสัญลักษณ์ CCC (China Compulsory Certification) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของจีน
  2. จำกัดความจุ ไม่เกิน 100 Wh (ประมาณ 20,000 mAh):สามารถนำขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องขออนุญาต 100–160 Wh (ประมาณ 20,000–32,000 mAh): สามารถนำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากสายการบินก่อนและไม่เกิน 2 ชิ้นต่อคน เกิน 160 Wh: ห้ามนำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด
  3. ห้ามใช้บนเครื่อง:ห้ามใช้พาวเวอร์แบงก์เพื่อชาร์จอุปกรณ์ใด ๆ ขณะอยู่บนเครื่องบิน
  4. เฉพาะกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง:พาวเวอร์แบงก์ต้องอยู่ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามใส่ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องโดยเด็ดขาด 

สภาพอากาศ

สภาพอากาศที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนธันวาคมจะค่อนข้างหนาวและมีลมแรง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 2°C ถึง 11°C เนื่องจากเป็นฤดูหนาวที่ชื้น อากาศจึงรู้สึกหนาวกว่าที่อุณหภูมิบ่งบอก

เวลา

เวลาในเซี่ยงไฮ้ เร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 1 ชั่วโมง 
โซนเวลา เซี่ยงไฮ้: เขตเวลา UTC+8 ประเทศไทย: เขตเวลา UTC+7 

เครื่องใช้ไฟฟ้า

ไฟฟ้าที่สหรัฐอเมริกาเป็นไฟ 120 Volt ไม่สามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าโวลต์สูงจากไทยไปใช้ได้ปลั๊กไฟฟ้าเป็นแบบ Type A และ Type B

VAT หรือภาษี

นโยบายใหม่ของจีนได้เปลี่ยนจากการขอคืนภาษีที่สนามบิน (Refund-upon-departure) มาเป็นการคืนภาษีทันที ณ จุดซื้อสินค้า (Refund-upon-purchase)

  • รวดเร็วและสะดวก:ไม่ต้องต่อคิวนานที่สนามบิน และในหลายร้านค้าไม่จำเป็นต้องกรอกเอกสารให้ยุ่งยาก
  • รับเงินคืนทันที:สามารถรับเงินคืนเป็นเงินหยวนได้ทันทีที่ร้านค้า โดยต้องมีการกันวงเงินบัตรเครดิตไว้ล่วงหน้า

เงื่อนไขการขอคืนภาษี

  • ร้านค้าที่ร่วมรายการ: ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีป้ายสัญลักษณ์ “Tax-Free”
  • ยอดซื้อขั้นต่ำ: มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 200 หยวน (ประมาณ 27.75 ดอลลาร์สหรัฐ) ในร้านค้าเดียวกันและวันเดียวกัน
  • สินค้าที่ขอคืนได้: สินค้าที่ซื้อยังไม่ถูกนำไปใช้หรือบริโภค และต้องนำออกนอกประเทศภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • ขีดจำกัดเงินสด: เพดานการคืนเงินเป็นเงินสดได้เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 หยวน (ประมาณ 2,784 ดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนวิธีอื่นไม่มีการจำกัดวงเงิน
  • อัตราคืนภาษี: โดยทั่วไปอัตราการคืนภาษีอยู่ที่ประมาณ 9-11% ของราคาสินค้าที่รวมภาษีแล้ว หลังหักค่าธรรมเนียมการดำเนินการ 

ขั้นตอนการขอคืนภาษี (แบบ ณ จุดซื้อสินค้า)

  1. ที่ร้านค้า:
    • แสดงหนังสือเดินทางและบัตรเครดิตให้พนักงานร้านค้า
    • เซ็นชื่อในข้อตกลงการกันวงเงินบัตรเครดิต
    • รับเงินคืนเป็นสกุลเงินหยวนทันที
  2. ที่ศุลกากร ณ สนามบินขาออก:
    • แสดงสินค้า ใบเสร็จ และเอกสารประจำตัวให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบ

การใช้อินเตอร์เน็ท

แอพที่ควรมี

การใช้อินเตอร์เน็ท

การใช้ซิมการ์ดในประเทศจีนมีหลายทางเลือก แต่ข้อควรทราบที่สำคัญคือ “ระบบกำแพงไฟร์วอลล์จีน (Great Firewall)” ซึ่งจะบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างชาติบางประเภท เช่น Google, YouTube, Facebook, Instagram และ WhatsApp

แนะนำใช้ซิมการ์ดโรมมิ่งจากไทย สะดวกและใช้งานง่าย เพียงเปิดบริการโรมมิ่งกับเครือข่ายไทยก่อนเดินทาง เครือข่ายของคุณจะดูแลเรื่องการเชื่อมต่อให้โดยอัตโนมัติ และบางแพ็กเกจสามารถข้ามกำแพงไฟร์วอลล์ได้ เครือข่ายในไทยอย่าง AIS, DTAC และ True มีแพ็กเกจ SIM สำหรับการโรมมิ่งในจีนโดยเฉพาะ 

แอปที่ควรมีเมื่อเที่ยวจีน

แอปสำหรับการชำระเงิน

จีนเป็นสังคมไร้เงินสด การมีแอปสำหรับชำระเงินจะช่วยให้คุณใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบาย 

  • Alipay : เป็นแอปชำระเงินที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สามารถใช้สแกนจ่ายค่าสินค้าและบริการได้เกือบทุกที่ และปัจจุบันสามารถผูกบัตรเครดิต/เดบิตที่ออกในต่างประเทศได้แล้ว
  • WeChat : เป็นแอปสารพัดประโยชน์ที่คนจีนใช้เป็นประจำ มีฟังก์ชันการชำระเงิน (WeChat Pay) ที่ใช้กันแพร่หลาย

แอปสำหรับการเดินทาง

การเดินทางในจีนจะง่ายขึ้นมากหากมีแอปที่ใช้สำหรับแผนที่และเรียกรถ 

  • Baidu Maps หรือ Amap : แอปแผนที่ท้องถิ่นที่แม่นยำกว่า Google Maps ในจีนมาก บอกเส้นทางได้ละเอียดทั้งรถสาธารณะ, รถไฟใต้ดิน, และแท็กซี่ Baidu Maps มีเวอร์ชันภาษาอังกฤษ แต่ Amap ส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน
  • Didi : แอปเรียกรถยอดนิยมในจีน คล้ายกับ Grab หรือ Uber สามารถผูกกับ Alipay เพื่อความสะดวกในการชำระเงิน
  • Trip.com : แอปสำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ ที่พัก และทัวร์ในจีน มีเวอร์ชันภาษาไทยใช้งานง่าย
  • MetroMan: แอปแผนที่รถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมหลายเมืองในจีน ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเป็นเรื่องง่าย 

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

เพื่อให้ทริปราบรื่น ไม่มีสะดุด และพร้อมสำหรับวันแข่งอย่างเต็มที่ อย่าลืมเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้ครบก่อนออกเดินทาง

  1. จัดอุปกรณ์ที่จะใช้ในวันแข่งลง Carry On
    อุปกรณ์วันแข่งห้ามโหลดใต้เครื่อง รองเท้า เสื้อผ้าวิ่ง หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นในวันแข่ง ควรเก็บไว้ใน carry-on หรือเป้ติดตัวขึ้นเครื่อง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น กระเป๋าหาย หรือมาถึงล่าช้า
  2. เตรียมเอกสารการเดินทาง ประกันเดินทาง
    เตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อม ให้แน่ใจว่ามีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนทั้งขาไปและขากลับ ตรวจสอบชื่อนามสกุลตัวสะกดบนวีซ่าให้แน่ใจอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีเอกสารอื่นๆ เช่น วัคซีน ประกันเดินทาง ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือแล้ว ยังแนะนำให้ถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นกระดาษสำรองไว้ (เผื่อมือถือหายจะได้ยังมีข้อมูล)
  3. เตรียมข้อมูลสำหรับการตรวจคนเข้าเมือง
    เตรียมข้อมูลที่พัก ตั๋วเครื่องบินขากลับ เพราะ ตม. อาจสุ่มตรวจสอบถามข้อมูล เช็คให้แน่ใจว่าวันที่บินกลับ ยังอยู่ในช่วงที่วีซ่ามีอายุอยู่
  4. แลกเงิน เตรียมบัตรเครดิต หรือ Travel Card
    ส่วนใหญ่ร้านค้า ร้านอาหาร จะเป็นระบบ cashless เกือบหมด สามารถจ่ายเงินด้วยบัตรที่มีสัญลักษณ์ touchless นอกจากนี้ แนะนำให้แลกเงินสดไว้บ้าง (แบงค์ย่อยเล็กๆ) เผื่อฉุกเฉิน ไม่แนะนำให้พกเงินสดจำนวนเยอะๆ
  5. เตรียมอุปกรณ์ First Aid ยาประจำตัว วิตามิน อาหารเสริม
    เนื่องจากยาหลายชนิด โดยเฉพาะที่ไม่ใช่ยาสามัญทั่วไป จะต้องใช้ใบสั่งแพทย์ (prescription) ในการซื้อ ควรพกไปให้ครบตั้งแต่ต้นทาง และควรเป็นยาที่มีฉลากชัดเจน
  6. รีวิวแผนการเดินทาง 
    นำแผนการเดินทางมารีวิวดูอีกที พักที่ไหน เอา address มา save ไว้ใน Google Maps ให้พร้อมโหลด maps เป็นแบบ offline เผื่อไว้ก็ดี ส่วนตัวจะใช้ app ชื่อ TripIt เป็น app ที่มีประโยชน์มากๆ จัดเรียงข้อมูลทุกอย่างแบบ offline ไว้ในมือถือ ค้นหาสะดวกมาก
  7. ถ่ายรูปกระเป๋าที่โหลด
    หากกระเป๋าเสียหายจะได้มีหลักฐานสภาพกระเป๋าก่อนเสียหาย หรือถ้ากระเป๋าล่าช้า/หาย จะเป็นประโยชน์ต่อสายการบินในการค้นหากระเป๋าได้เร็วขึ้น

การเดินทางเข้าเมือง

การเดินทางไปโรงแรม Golden Tulip The Bund New Asia ตั้งอยู่ที่ No. 422, Tiantong Road, Shanghai ในเขต Hongkou

วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟ Maglev ไปยังโรงแรม Golden Tulip Bund New Asia มีขั้นตอนดังนี้: 

  1. นั่งรถไฟ Maglev จากสนามบินผู่ตง (PVG) ไปยังสถานี Longyang Road: รถไฟ Maglev จะพาคุณเดินทางจากสนามบินไปถึงสถานี Longyang Road โดยใช้เวลาเพียง 8 นาที ตั๋ว Maglev กดที่หน้าตู้ราคาปกติ 50หยวน/เที่ยว

****เคล็ดลับ: หากคุณแสดง Boarding Pass (ตั๋วเครื่องบิน) ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว จะได้รับส่วนลดค่าตั๋ว Maglev เหลือ 40 หยวน   หากแพลนที่จะเดินทางทั้งไปทั้งกลับ แนะนำให้ซื้อ  Maglev 2 เที่ยว (ไป-กลับ) + metro 24ชม. 85 หยวน

  1. ต่อรถไฟใต้ดินจากสถานี Longyang Road: ที่สถานี Longyang Road ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2
  2. เดินทางไปสถานี East Nanjing Road: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ไปลงที่สถานี East Nanjing Road
  3. เดินจากสถานีไปยังโรงแรม: จากสถานี East Nanjing Road คุณสามารถเดินต่อไปยังโรงแรม Golden Tulip Bund New Asia ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร หรือสามารถใช้บริการรถแท็กซี่หรือบริการเรียกรถ (didi) ได้เช่นกัน

ระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมือง Shanghai

การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในเซี่ยงไฮ้

  1. การซื้อตั๋ว
  • ใช้บัตรเครดิตแตะจ่าย: ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 ผู้ถือบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ Visa, Mastercard และ UnionPay สามารถใช้บัตรแตะเพื่อเข้าใช้บริการได้เลยโดยไม่ต้องซื้อตั๋ว
  • ใช้แอปพลิเคชัน Alipay: เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว เพียงสแกน QR Code เพื่อจ่ายเงินเข้า-ออกสถานี
  • ซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (TVM): สามารถซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวได้ โดยเครื่องรองรับเงินสด (หยวน)
  • ซื้อบัตรโดยสารแบบพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว:
    • บัตรวัน (One-Day Pass): ใช้เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวภายใน 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่เที่ยวหลายจุดในหนึ่งวัน
    • บัตร 3 วัน (Three-Day Pass): ใช้เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวภายใน 72 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่พักในเซี่ยงไฮ้หลายวัน 
  1. การใช้งานรถไฟใต้ดิน
  2. เข้าสถานีและตรวจสัมภาระ:ก่อนเข้าสู่พื้นที่ชำระเงิน ผู้โดยสารทุกคนต้องนำกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนเพื่อตรวจความปลอดภัย
  3. แตะบัตรหรือสแกน QR Code:ใช้บัตรที่ซื้อไว้หรือ QR Code จากแอป Alipay แตะที่ประตูทางเข้า-ออก
  4. ตรวจสอบเส้นทาง:ตรวจดูป้ายบอกทางเพื่อหาชานชาลาที่ต้องการ สามารถใช้แอปพลิเคชันอย่าง Metroman ช่วยวางแผนการเดินทางได้

เวลาทำการและข้อควรระวัง

  • เวลาทำการ: รถไฟใต้ดินส่วนใหญ่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05:30–06:00 น. และปิดประมาณ 22:00–22:30 น. (แต่ละสายอาจแตกต่างกันเล็กน้อย)
  • ชั่วโมงเร่งด่วน: ควรหลีกเลี่ยงช่วงเช้า (07:00–09:00 น.) และเย็น (17:00–19:00 น.) หากไม่ต้องการเผชิญกับผู้คนจำนวนมาก